
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเดินทางไปต่างประเทศมีความเสี่ยงสูงในช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ทั่วโลก ถึงแม้ว่าไม่หวาดหวั่นกับไวรัสตัวร้าย แต่การท่องเที่ยวทั่วโลกก็เป็นไปได้ยาก เนื่องจากมีไม่กี่แห่งในโลกที่เปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศแม้จะมีการกักตัว 14 วันเป็นมาตรการความปลอดภัยก็ตาม หลายสำนักข่าวอัปเดตข้อมูลสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 โดยแสดงรหัสสีบนแผนที่โลกให้รู้สถานะของแต่ละประเทศว่าตัดสินใจบังคับใช้มาตรการปิดประเทศ สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่แน่นอนและอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การไปเที่ยวต่างประเทศช่วงนี้จึงมีความเสี่ยงว่าการจองเที่ยวบินอาจถูกยกเลิกในนาทีสุดท้ายก็ได้
การท่องเที่ยวเป็นรายได้สำคัญต่อเศรษฐกิจของหลายประเทศ จึงไม่ปิดกั้นชาวต่างชาติเดินทางโดยเครื่องบินเข้าประเทศ รวมถึงอังกฤษ, เม็กซิโก, อียิปต์, บราซิล, บัลแกเรีย, ตูนีเซีย, ปากีสถาน, ชิลี และโบลิเวียด้วย แต่ยังจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์และอาจมีนโยบายการเดินทางอื่น ๆ เช่น การตรวจสอบอุณหภูมิเมื่อเดินทางไปถึงหรือการกักกันเพื่อทดสอบเชื้อไวรัสเป็นเวลา 10 วันหรือ 14 วันแม้ว่าจะไม่มีอาการของโควิด-19 ก็ตาม แนะนำว่าถ้าไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปประเทศกลุ่มนี้ซึ่งมีความเสี่ยงและการแพร่ระบาดของไวรัสยังคงอยู่ในขั้นวิกฤต
ขณะที่รัฐบาลทั่วโลกแนะนำพลเมืองว่าอย่าประมาทเพราะเชื้อไวรัสยังอยู่รอบตัว แต่หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มและยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางโดยอนุญาตให้เที่ยวบินเชิงพาณิชย์กลับมาให้บริการได้เต็มรูปแบบมากขึ้นเพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้จ่ายเงินทำให้เม็ดเงินสะพัดกระตุ้นเศรษฐกิจให้กระเตื้องขึ้น ข้อมูลล่าสุดมีจำนวน 92 ประเทศที่คลายล็อกเปิดรับนักท่องเที่ยวบางสัญชาติ เช่น แคนาดา, สหรัฐอเมริกา, กรีนแลนด์, ไอซ์แลนด์, รัสเซีย, นอร์เวย์, ฟินแลนด์, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, อิตาลี, สเปน, เนเธอร์แลนด์, จีน, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, อิหร่าน, ซาอุดิอาระเบีย, ตุรกี เป็นต้น
สำหรับ 49 ประเทศที่ยังไม่มีการประกาศเปิดประเทศอย่างเป็นทางการ หมายความว่าขณะนี้ไม่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเลย ได้แก่ ประเทศไทย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, เวียดนาม, เกาหลีเหนือ, อัฟกานิสถาน, โอมาน, อัลจีเรีย, ลิเบีย, เยเมน, อุรุกวัย, เวเนซูเอลา เป็นต้น โดยจะรับเฉพาะพลเมืองที่เดินทางกลับมาหรือบุคคลที่มีสถานะพิเศษเท่านั้นที่สามารถเข้าประเทศได้
หลายประเทศอย่างอินเดีย, พม่า, เนปาล และมองโกเลียกำลังวางแผนปลดล็อกในไม่ช้าเพราะเชื้อไวรัสจะยังคงอยู่กับเราไปอีกนาน การปิดพรมแดนและน่านฟ้าเป็นมาตรการที่จำเป็นเพื่อปิดกั้นการแพร่กระจาย แต่ระบบเศรษฐกิจได้รับผลกระทบหนักจึงไม่สามารถปิดประเทศได้ตลอดไป สำหรับประเทศที่ปลดล็อกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาแล้วถือเป็นสัญญาณดี แสดงให้เห็นว่ามาตรการป้องกันและเฝ้าระวังโรคมีแนวโน้มค่อนข้างดี สถานการณ์อาจคลี่คลายได้ในเร็ววัน หากต้องการเดินทางไปท่องเที่ยวทั่วโลกควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อดูแลและป้องกันตัวเองให้ปลอดภัย และลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อให้คนรอบข้าง